ผึ้งต่อยทำไงดี?
“เอาเหล็กในออก ฟอกให้สะอาด ปาดสารต้านพิษ ชิดด้วยน้ำแข็ง แบ่งยาให้กิน อินกับอาการ”
ผึ้ง ต่อ แตน ต่อย เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวันครับ เนื่องจากประเทศไทยเราเป็นประเทศในเขตร้อน ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติของแมลงเหล่านี้ เราพบเห็นได้บ่อยในข่าวว่ามีคนเสียชีวิตจากการถูกแมลงเหล่านี้ต่อย ทั้งจากการดูแลที่ไม่ถูกต้อง ความเข้าใจผิดบางอย่าง รวมถึงความล่าช้าในการจัดการปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อโดนต่อย วันนี้หมอจะมาเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ฟังกันครับ
มารู้จักกับ ผึ้ง ต่อ แตน กันก่อน
แมลงเหล่านี้ อยู่ใน ตระกูล hymenoptera ซึ่งกระกูลนี้มีแมลงแตกต่างกันถึง 150,000 ชนิดเลยทีเดียวเลยนะ แต่ที่เราคุ้นกันดีคือ ผึ้ง ต่อ แตน และ มด ครับ วันนี้เรามาพูดถึง ผึ้ง ต่อ แตน กันว่า แมลงเหล่านี้มีความแตกต่างกันอย่างไร
ผึ้ง ตัวเล็ก มีเหล็กใน ผึ้งบางชนิดเท่านั้นที่จะฝังเหล็กใน เมื่อต่อยเหยื่อ และ พิษของผึ้งนั้นมีความเป็นกรด
ต่อ แตน ลักษณะคล้ายกัน ตัวใหญ่กว่าผึ้ง ไม่ฝังเหล็กใน ทำให้สามารถต่อยได้หลายครั้ง พิษเป็นด่างและรุนแรงกว่าพิษผึ้ง ต่อและแตนจึงเป็นอันตรายมากกว่าผึ้งด้วยเหตุนี้ครับ
Apitoxin compound
พิษผึ้งนั้นรู้จักกันดีในชื่อ Apitoxin(เอพิทอกซิน) ครับ
Apitoxin นั้นประกอบไปด้วยสารเคมีหลายตัวเลยครับ (ตรงนี้อ่านผ่านเร็วๆได้เลย) เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
Enzymes
- Phospholipase A2, Hyaluronidase, Acid Phospomonoesterase, α-D-Glucosidase, Lysophospholipase
Peptide Components
- Melittin, Apamin, Mast Cell Degranulating Peptide, Secapin, Tertiapin, Protease Inhibitor, Histamine-containing Peptides
Nonpeptide Components of Low Molecular Mass
- Biogenic Amines, Histamine, Catecholamines, Free Amino Acids
อ่านดูแล้วอาจจะงงกับศัพท์เหล่านี้ใช่มั้ยครับ ไม่เป็นไร หมอจะสรุปให้ฟังง่ายๆว่า สารเหล่านี้ เป็นพิษต่อเนื้อเยื่อบริเวณที่โดนสารนี้โดยตรง รวมทั้งอวัยวะที่มีเลือดไปเลี้ยงเยอะๆ พร้อมทั้งยังกระตุ้นระบบภูมิแพ้ในร่างกายให้ทำงานมากขึ้นครับ
อันตรายจากพิษผึ้ง ต่อ แตน
หมอขอแบ่งเป็นสองกลุ่มครับ
อันตรายจากพิษโดยตรง เนื่องจาก Apitoxin นั้นสามารถทำลาย เนื้อเยื่อ และ เป็นพิษกับอวัยวะที่มีเลือดเลี้ยงมากๆ เช่น ไต หัวใจ ระบบไหลเวียนเลือด และกล้ามเนื้อ แต่ปริมาณพิษที่จะสามารถทำให้เกิดอันตรายอย่างรุนแรงจนเสียชีวิตอย่างเฉียบพลัน จากการศึกษาพิษผึ้งต้องมากถึง 2.8mg/kg เทียบเท่าการต่อย โดยผึ้ง 19 ตัว ต่อน้ำหนัก 1 kg เลยทีเดียวครับ แต่พึงระวังว่า ต่อ แตน นั้นพิษแรงกว่าผึ้งมากครับ ความแรงของพิษนั้นขึ้นกับสายพันธุ์และอายุของมัน การโดนต่อยเพียง 2-3 ตัว อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ครับ พึงระวังไว้เสมอ
อันตรายจากการแพ้รุนแรง เป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่มากที่สุดครับ ส่วนประกอบของ Apitoxin นั้นเป็นสิ่งกระตุ้นระบบการแพ้ของร่างกายชั้นดีครับ จะเห็นว่าเมื่อโดนต่อย จะมีทั้งอาการบวม และ คัน แต่มีเพียงไม่เกิน 3% เท่านั้นที่จะมีอาการแพ้รุนแรง และมักเกิดขึ้นภายใน 2 ชั่วโมงหลังโดนต่อย
อาการที่บ่งบอกว่าท่านอาจจะมีภาวะ “แพ้รุนแรง” มีดังนี้ครับ
ผื่นลมพิษจำนวนมาก หน้าบวม ตาบวม แน่นหน้าอก วิงเวียน วูบ หายใจไม่อิ่ม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว ชัก
หากมีอาการเตือนเล่านี้ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ควรได้รับการดูแลโดยแพทย์อย่างเร่งด่วนครับ
ทำอย่างไรดี เมื่อโดน ผึ้ง ต่อ แตน ต่อย
ถึงเวลาที่เราต้องจัดการให้ถูกต้องครับ หมอจะเล่าให้ฟัง เอาเป็นขั้นตอนง่ายๆดังนี้ครับ “เอาเหล็กในออก ฟอกให้สะอาด ปาดสารต้านพิษ ชิดด้วยน้ำแข็ง แบ่งยาให้กิน อินกับอาการ”
- เอาเหล็กในออก
เฉพาะเพียงผึ้งที่สร้างน้ำหวานเท่านั้นที่จะทิ้งเหล็กในไว้กับเหยื่อ ต่อ แตน และ ผึ้งชนิดอื่นจะไม่ทิ้งเหล็กในไว้ครับ ในเหล็กในนั้นประกอบด้วย เข็ม และ ถุงเก็บพิษที่ส่วนบน ซึ่งอวัยวะนี้ สามารถทำงานฉีดพิษต่อเนื่องได้ถึง 10 นาที หากไม่รีบเอาออก พิษของผึ้งนั้นจะเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้นครับ วิธีการเอาออกคือ ใช้วัตถุแข็งมีขอบ เช่น บัตรต่างๆ สันมีด หรือ เล็บ ขูดออก วิธีการคือ ขูดสวนทางกับแนวเหล็กใน เพื่อให้หลุดออกครับ ไม่ควรใช้ การบีบ คีบ ดึง เพราะอาจจะทำให้เกิดการบีบถุงพิษ จนทำให้พิษนั้นเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากขึ้น
- ฟอกให้สะอาด
ฟอกบริเวณที่ถูกต่อยด้วยน้ำสบู่ให้สะอาดครับ เพราะอาจปนเปื้อนเชื้อโรคจากผิวได้
- ปาดสารต้านพิษ
ในส่วนนี้หมอขอแยกเป็นสองส่วนครับ แต่จะบอกไว้ก่อนนะครับว่า การศึกษาเรื่องสารต้านพิษเหล่านี้มีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันไม่มาก แต่ด้วยหลักการทางเคมีวิทยาแล้ว สามารถอธิบายได้
พิษผึ้ง เนื่องด้วยความเป็นกรดของพิษผึ้ง สารต้านพิษที่หาได้ตามบ้านทั่วไปคือ สารที่เป็นด่างเช่น Baking Soda(เบคกิ้งโซดา) ละลายน้ำแล้วแช่ส่วนที่โดนต่อยลงในน้ำเบคกิ้งโซดา ประมาณ 3 นาที ด้วยกลไก กรด ผสมด่าง จะเป็นกลาง ทำให้ความรุนแรงของพิษผึ้งลดลง
พิษต่อ แตน จากที่หมอกล่าวไว้ว่า พิษต่อแตนนั้นเป็นด่าง สารต้านพิษนั้นจึงควรใช้กรดอ่อนๆเพื่อทำให้พิษนั้นลดลง สารประกอบกรดที่หาได้ตามบ้านเรือนคือ น้ำมะนาว และ น้ำส้มสายชู โดยวิธีการคือทาทิ้งไว้ประมาณ 3 นาทีแล้วทาซ้ำอีกรอบ
หัวหอมแดง มีการศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญพบว่า เอ็นไซม์ในหัวหอมแดงสามารถ ทำให้พิษของ ผึ้ง ต่อ แตน ลดความรุนแรงลงได้ โดยการย่อยสลายสารประกอบบางตัว วิธีการคือหั่นหัวหอมแดง ถูรอบๆรอยบวมแดงของแผลเบาๆ และ วางหัวหอมนั้นทิ้งไว้ 3 – 5 นาทีครับ
- ชิดด้วยน้ำแข็ง
ความเย็นจะทำให้เส้นเลือดหดตัว ยับยั้งการไหลเวียนของเลือด รวมทั้ง สารการอักเสบ และ สารก่อภูมิแพ้ ทำให้การอักเสบเฉพาะที่นั้นเบาลง และ ชะลอเวลาการกระจายของพิษผึ้ง ต่อ แตน ได้ แถมยังลดอาการเจ็บ ปวด คัน ได้ด้วยครับ วิธีการคือ ประคบบริเวณที่ถูกต่อยด้วยน้ำแข็ง 10-15 นาทีก็เพียงพอ
- แบ่งยาให้กิน
เนื่องด้วยปัญหาของพิษ ผึ้ง ต่อ แตน คือ การอักเสบเฉพาะที่ ที่ทำให้เกิดอาการ ปวด บวม แดง คัน และ กระตุ้นระบบภูมิแพ้ของร่างกาย หมอจึงขอแบ่งการรักษาเป็นสองส่วนครับ
การอักเสบเฉพาะที่ เมื่อทำตามขึ้นตอนที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จมาในระยะนึงแล้วครับ แต่เรายังสามารถทำให้ดีขึ้นได้ คือการกินยาที่ลดอาการเจ็บปวด เช่น Acetaminophen(พาราเซตามอล) และ ยาต้านการอักเสบ เช่น Ibuprofen(ไอบูโพรเฟน), diclofenac(ไดโคลฟีแนค) ถ้าไม่มีข้อห้ามในการใช้ยา ในส่วนของยาทานั้น หมอขอแนะนำเป็น Local Steroid(ยาเสตียรอยด์เฉพาะจุดแบบทา) เช่น hydrocortisone cream(ไฮโดรคอติโซนครีม), Triamcinolone cream(ไตรแอมซิโนโลนครีม) กลุ่มนี้จะได้ผลน่าพอใจที่สุดครับ
ยับยั้งระบบภูมิแพ้ จากที่กล่าวมาว่าการแพ้แบบรุนแรงนั้นเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่ง เราจึงต้อง ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆครับ ยาที่ช่วยได้คือกลุ่ม Antihistamine(ยาต้านฮิสตามีน) ที่เราเรียกกันว่ายาแก้แพ้นั่นเองครับ ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้ที่มักจะมีติดบ้านคือ CPM(คลอเฟนิรามีน), Hydroxyzine(ไฮดร๊อกไซซีน), Cetirizine(เซทไทริซีน) กินตามขนาดที่แนะนำในฉลากยาได้เลยครับ
- อินกับอาการ
เนื่องด้วยผลของพิษผึ้ง ต่อ แตน นั้น สามารถส่งผลได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วระดับนาที คืออาการแพ้รุนแรง จนทำให้เสียชีวิตได้ จึงควรเฝ้าระวังอยู่เสมอ หากมีอาการแพ้รุนแรงตามที่หมอกล่าวมา ปฐมพยาบาล พร้อมทั้งเดินทางไปสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดนะครับอย่ารีรอเป็นอันขาด
ไม่ใช่ช่วงแรกเท่านั้นที่ควรเฝ้าระวัง จากการศึกษาพบว่า พิษผึ้งนั้น สามารถส่งผลให้เกิดไตวายได้ถึง 2 อาทิตย์หลังโดนต่อยเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น อินกับอาการเสมอ เฝ้าระวังความผิดปกติในร่างกายของผู้ที่โดนต่อย เมื่อมีอะไรดูไม่ปกติ ให้เดินทางไปพบแพทย์ทันที อย่ารีรอครับ
ยินดีด้วยครับทุกท่าน ตอนนี้ท่านมีทักษะการเอาตัวรอดจากภัยคุกคามเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง คือ การดูแลเมื่อโดนผึ้ง ต่อ แตน ต่อย อย่าลืมที่หมอบอกนะครับ
“เอาเหล็กในออก ฟอกให้สะอาด
ปาดสารต้านพิษ ชิดด้วยน้ำแข็ง
แบ่งยาให้กิน อินกับอาการ”
ท่านใดมีประสบการโดนผึ้ง ต่อ แตน ต่อย เล่าให้ฟังหน่อยครับว่าเป็นยังไงกันบ้าง
ด้วยความรัก
นายแพทย์ธีรวัฒน์ สุวรรณี
แพทย์ประจำบ้านหมอ
Founder: www.idoctorhouse.com
Founder: Kinya App.
Facebook: นพ.ธีรวัฒน์ สุวรรณี
References:
https://pdfs.semanticscholar.org/759b/60f604ffd4ce74395f278d686c82fb99b065.pdf
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4792632/
https://www.allergy.or.th/2016/pdf/Thai_CPG_Anaphylaxis_2017_Full_version.pdf
https://en.wikipedia.org/wiki/Bee_sting
https://www.abqjournal.com/799121/onion-slices-take-the-burn-out-of-wasp-sting.html
https://insectstings.co.uk/bee-sting-acid-or-alkali/