Physiology ใน 1 นาที
ระบบผิวหนังของสิ่งมีชีวิต มีหน้าที่ในการห่อหุ้มร่างกาย เพื่อรักษาสมดุลน้ำ อุณหภูมิในร่างกาย และป้องกันอันตรายจากสภาพแวดล้อมภายนอก ซึ่งผิวหนังของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด จะแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่ครับ
ระบบผิวหนังนั้นยังรวมถึง ขน ผม เล็บ ต่อมไขมัน และ ต่อมเหงื่อที่อยู่ในผิวหนัง ซึ่งอวัยวะต่างๆนี้ ล้วนมีหน้าที่ในการรักษาสมดุล และ ปกป้องร่างกายจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรครับ
เรื่องของผิวหนัง เป็นเรื่องที่มนุษย์อย่างเราให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะเกี่ยวข้องกับหน้าตาและความสวยงาม การเข้าใจธรรมชาติของระบบผิวหนัง จะช่วยให้เราเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังอย่างถูกต้องครับ
การทำงานของระบบผิวหนัง (ฉบับเต็ม)
ระบบผิวหนังนั้น เป็นระบบแรกที่พัฒนาขึ้นในสิ่งมีชีวิตครับ หน้าที่หลักคือ “การห่อหุ้มร่างกาย” ของสิ่งมีชีวิต ให้แยกออกจากสิ่งแวดล้อมที่อยู่อย่างชัดเจน ซึ่งในยุคที่เริ่มเกิดสิ่งมีชีวิตขึ้นบนโลก(คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้วิวัฒนาการ) ผิวหนังของสิ่งมีชีวิต เป็นเป็นเพียงเยื่อบางๆ เพื่อกั้นสิ่งแวดล้อมภายนอกกับภายในเซลล์เพียงเท่านั้น
ด้วยสภาพแวดล้อม และการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน จึงเกิดการพัฒนาอวัยวะต่างๆ จากเยื่อบางๆนี้ ให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิต ตัวอย่างเช่น เต่าพัฒนากระดองเพื่อการปกป้องตัวเอง หรือ หมีในขั้วโลกพัฒนาขนที่หนาฟู เพื่อให้ตัวเองอุ่น กิ้งก่าบางสายพันธ์พัฒนาผิวหนังให้เปลี่ยนสีได้เพื่ออำพรางจากอันตราย หรือแม้กระทั่งนกพัฒนาขนที่เรียงตัวเพื่อให้ตัวเองนั้นบินได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากการพัฒนาของระบบผิวหนังครับ
ผิวหนังของมนุษย์ นั้นเป็นผิวบาง และมีขนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนขนของสัตว์อื่นๆ ไม่สามารถเปลี่ยนสีได้ แต่สามารถหดและคลายขนาดของรูขุมขนได้ตามสภาพแวดล้อม
ไม่เท่านั้นมนุษย์ยังมี “ความเข้มของสีผิว” แตกต่างกันตาม “ระดับความเข้มแสง” ในแต่ละพื้นที่ที่อาศัยอยู่ เพื่อใช้ป้องกัน DNA ที่จะได้รับอันตรายจากความเข้มแสงในระดับสูงด้วยครับ
หน้าที่ผิวหนังของมนุษย์เราจะแตกต่างจากสัตว์โดยทั่วไปบ้างในบางข้อ แต่ยังคงหลักการคล้ายๆกัน มาดูหน้าที่ผิวหนังของเรากันครับ
- ห่อหุ้มร่างกายจากสภาพแวดล้อม
- รักษาสมดุลอุณหภูมิ
- เป็นแหล่งเก็บพลังงานและเลือด
- ป้องกันการเสียดสีและกระแทกจากภายนอก
- ป้องกันรังสียูวีที่อาจจะทำให้เกิดมะเร็ง
- สร้างความสวยงามให้กับร่างกาย
- สังเคราะห์วิตามินดีจากแสง
ภาพจาก:http://www.headandneckcancerguide.org
ผิวหนังของมนุษย์เรานั้นประกอบด้วยสามชั้นใหญ่ๆครับคือ
- Epidermis (ชั้นหนังกำพร้า) เป็นผิวชั้นนอกสุดของผิวหนัง ส่วนมากประกอบด้วย เซลล์ที่ตายแล้ว ทำหน้าที่ในการเป็นเยื่อห่อหุ้มร่างกาย และ รองรับการเสียดสี ชั้นหนังกำพร้านี้ยังมีท่อต่างๆที่ต่อออกมาจากต่อมที่อยู่ในชั้นหนังแท้ด้วยครับ
- Dermis (ชั้นหนังแท้) เป็นชั้นกลางที่ถือว่าเป็นจุดหลักในการทำงานของผิวหนัง ประกอบด้วยเซลล์ประสาท เส้นประสาท เส้นเลือด ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน และเซลล์ต่างๆอีกมากมาย
- Hypodermis (ชั้นใต้ผิวหนัง) ชั้นนี้ส่วนใหญ่เป็นไขมันครับ ทำหน้าที่ในการรับแรงกระแทก เป็นฉนวนกันอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง และยึดเหนี่ยวระบบผิวหนังไว้กับร่างกาย
เดี๋ยวเราไปเจาะลึกการทำงานของแต่ละชั้นกันครับ
ภาพจาก:http://www.headandneckcancerguide.org
Epidermis (ชั้นหนังกำพร้า)
ชั้นบนสุดที่เรียกว่า Epidermis นี้เป็นชั้นทำหน้าที่หลักในการปกป้อง อวัยวะที่อยู่ด้านล่างครับ ในชั้นหนังกำพร้านี้ “ไม่มีเซลล์ประสาท” และ “ไม่มีเส้นเลือดมาเลี้ยง” จึงไม่สามารถรับสัมผัสได้ พูดง่ายๆคือ ความเสียหายและอันตรายต่างๆที่เกิดในชั้นนี้เราจะไม่เจ็บนั่นเองครับ
Epidermis แบ่งเป็นชั้นย่อยๆอีก 5 ชั้น และ ยังมีเซลล์ต่างๆที่ทำงานร่วมกัน ไล่เรียงจากล่างขึ้นบนดังนี้ครับ
- Startum Basale ชั้นนี้เป็นชั้นล่างสุด ได้รับเลือดจากหนังแท้ด้านล่าง เรียงตัวเป็นชั้นๆบางๆ และเซลล์นั้นยังมีชีวิตครับ
- Startum Spinosum ชั้นบนขึ้นมาอีกชั้นและยังเป็นเซลล์มีชีวิต ในชั้นนี้ยังมีเซลล์ที่สำคัญคือ Melanocyte ทำหน้าที่สร้างเม็ดสี ทำให้เกิดสีผิว และ Dendritic cell ทำหน้าที่ด้านภูมิคุ้มกันครับ
- Startum Granulosum เป็นชั้นถัดขึ้นมา ในชั้นนี้เซลล์เริ่มตาย และ แบนลงครับ
- Startum Lucidum เป็นชั้นที่มีเฉพาะในฝ่ามือและฝ่าเท้าครับ และ ทั้งหมดเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว
- Startum Corneum ชั้นบนสุดที่สัมผัสบรรยากาศภายนอก และแน่นอนทุกเซลล์นั้นไม่มีชีวิตครับ
ภาพจาก:http://philschatz.com
Dermis (ชั้นหนังแท้)
Dermis หรือ ชั้นหนังแท้ เป็นชั้นที่รวบรวมการทำงานหลักของผิวหนังเลยก็ว่าได้ครับ ชั้นนี้ประกอบด้วย Collagen(คอลลาเจน) และ Elastin(เนื้อเยื่ออีลาสติน)เป็นหลักครับ ภายในนั้นประกอบด้วยอวัยวะหลายอย่างรวมตัวกันอยู่ และ ทำหน้าอย่างสอดคล้องกัน ไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้น ผิวหนังชั้นนี้ยังทำหน้าที่ในการสร้าง ขน ผม และ เล็บ ไปดูกันครับว่าชั้นนี้ประกอบด้วยอะไรบ้าง
- Blood Vessel(เส้นเลือด) ทั้งเส้นเลือดแดง และ เส้นเลือดดำ ในผิวหนังนั้น เก็บเลือดประมาณ 5% ของปริมาณเลือดทั้งหมด สามารถหดตัวเพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้หากเกิดภาวะฉุกเฉิน ซึ่งควบคุมโดยระบบประสาทอัตโนมัติ(คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ระบบประสาท)
- Nerve Ending(เส้นประสาท) ซึ่งที่ผิวหนังเรามีเส้นประสาทรับความรู้สึกมากมายต่างๆกัน เช่นรับอุณหภูมิ รับแรงกด หรือรับความเจ็บปวด ซึ่งเส้นประสาทเหล่านี้ทำงานจากตัวกระตุ้นที่แตกต่างกันครับ
- Sweat Gland(ต่อมเหงื่อ) ใช้ขับเหงื่อ เพื่อรักษาสมดุลน้ำและอุณหภูมิของร่างกาย
- Sebaceous Gland(ต่อมไขมัน) ทำหน้าที่ในการหลั่ง sebum ออกมาตามรูขุมขน เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง เพื่อการกันน้ำ และ ป้องกันแบคทีเรีย ซึ่งต่อมไขมันนี้พบทุกส่วนยกเว้นฝ่ามือและฝ่าเท้าครับ
Hypodermis (ชั้นใต้ผิวหนัง)
Hypodermis (ชั้นใต้ผิวหนัง) ชั้นนี้ประกอบด้วย ไขมัน เป็นส่วนใหญ่ครับ ทำหน้าที่ในการ เก็บพลังงาน เป็นฉนวนเพื่อป้องกันอุณหภูมิ และ ยึดผิวหนังให้อยู่กับอวัยวะอื่นๆครับ
เรานำความรู้เรื่องผิวหนังมาใช้อย่างไรบ้าง?
สร้างผลิตภัณฑ์ เพื่อดูแลผิว และ ผม โดยการสร้างสารที่เลียนแบบการทำงานของต่อมต่างๆในผิวหนัง
สร้างผลิตภัณฑ์เพื่อกำจัดกลิ่น ไม่พึงประสงค์จากต่อมเหงื่อ
ผลิตยา เพื่อรักษาโรคต่างๆที่เกี่ยวกับผิวหนัง
สร้างความสวยงามถาวร เช่นการสักลาย หรือ สักคิ้ว หมึกนั้นต้องสักเข้าไปถึงชั้นหนังแท้จึงจะถาวร เพราะหากถึงชั้นหนังกำพร้าจะมีการผลัดผิวตลอด
สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีผลต่อสีผิว ทั้งกลุ่มคนที่อยากผิวเข้ม และคนที่อยากมีผิวขาวขึ้น โดยสร้างสารที่มีผลต่อ Melanocyte เป็นหลัก เพื่อหวังผลต่อการสร้างเม็ดสี
.
.
เหล่านี้เป็นการทำงานของผิวหนังอย่างคร่าวๆครับ
แน่นนอนว่าเป็นระบบที่คนให้ความสนใจกันมาก
เพราะเกี่ยวข้องกับความสวยงาม
ความเข้าใจพื้นฐานง่ายๆ เรื่องผิวหนัง
จะทำให้เราดูแลผิวหนังได้ถูกต้อง
และภูมิใจในสีผิวของเราครับ
.
.
ด้วยความรัก
ก่อนจบบทมีความรู้เป็นวีดีโอเช่นเดิม สามารถกดบรรยายไทยได้นะครับ